วันอังคารที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2553

“Breast Tenderness during Hormone Replacement Therapy

“Breast Tenderness during Hormone Replacement Therapy
Linked to Elevated Cancer Risk”


Dr. Calolyn J. Crandall จาก David Geffen School of Medicine, UCLA ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผย
การวิจัยทางคลินิกพบ สตรีวัยทองที่ได้รับการบำบัดด้วยฮอร์โมน (estrogen plus progestin hormone
replacement therapy) มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมอย่างมีนัยสำคัญ ผลการศึกษาถูกตีพิมพ์ในวารสารชื่อ Archives of Internal Medicine


Dr. Crandall ได้ทำการศึกษาในสตรีวัยทอง 16,608 คน โดยสตรีวัยทอง 8,506 คน ได้รับ conjugated
equine estrogens 0.625 mg ร่วมกับ medroxyprogesterone acetate 2.5 mg (CEE+MPA) ทุกวัน และอีก 8,102 คน ได้รับยาหลอก (placebo)

โดยผู้ที่เข้าร่วมการศึกษาในครั้งนี้จะได้รับการตรวจเต้านมโดยแพทย์ และการตรวจด้วย mammography ตั้งแต่เริ่มต้นของการเข้าร่วมการศึกษาและจะได้รับการตรวจเป็นประจำทุกปี

จากการศึกษา พบว่า สตรีวัยทองที่เต้านมปกติ (ไม่เคยมีประวัติแสดงอาการกดเจ็บของเต้านม, breast
tenderness) เมื่อได้รับการบำบัดด้วยฮอร์โมนแล้วเป็นระยะเวลา 1 ปี มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการกดเจ็บของเต้านมมากกว่าผู้ที่ได้รับยาหลอก 36.1% (3 เท่า) และมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมสูงกว่าผู้ที่ได้รับยาหลอก 48%

Dr. Crandall กล่าวถึงสาเหตุที่อาจทำให้เกิดอาการกดเจ็บว่า “เป็นไปได้หรือไม่ว่าฮอร์โมนบำบัดเป็น
สาเหตุให้ breast tissue-cell แบ่งตัวอย่างรวดเร็วแบบทวีคูณทำให้เกิดอาการกดเจ็บของเต้านม ซึ่งบ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม ซึ่งยังคงต้องศึกษากันต่อไปว่าอะไรเป็นสาเหตุให้เกิดอาการกดเจ็บของเต้านมในระหว่างการบำบัดด้วยฮอร์โมน”

อย่างไรก็ตามการศึกษาในครั้งนี้ยังมีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ข้อมูลการกดเจ็บของเต้านมนั้นเป็นการ
ตรวจติดตามแบบรายปี และความต่อเนื่องของการใช้ฮอร์โมนบำบัดของผู้เข้าร่วมการศึกษายังไม่สามารถ
ควบคุมได้ ผลที่ได้จึงอาจต่ำกว่าความเป็นจริง และในการศึกษาครั้งนี้ทำการศึกษาจากการบำบัดด้วยฮอร์โมน estrogens ผสมกับ progesterone เท่านั้น ดังนั้น ในการศึกษาผลของฮอร์โมนในรูปแบบอื่นอาจให้ผลที่แตกต่างกันออกไป


ที่มา: http://www.sciencedaily.com/releases/2009/10/091012230458.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น