วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2553

กิจกรรมสาธิต กาย จิต ดนตรี สมาธิบำบัดสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง

กิจกรรมสาธิต กาย จิต ดนตรี สมาธิบำบัดสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
ผ่อนกาย คลายจิต กายฟิต พิชิตโรค

โดย อาจารย์ดารณี อ่อนชมจันทร์

ผู้ป่วยมะเร็งส่วนใหญ่จะมีความวิตกกังวล เมื่อรับรู้ว่าตนเองป่วยเป็นมะเร็ง ประกอบกับอาการเปลี่ยนแปลงของร่างกายจากพยาธิสภาพของโรค ร่างกายและจิตใจอ่อนแอลงอย่างชัดเจน วิตกกังวล และเก็บกด บางคนแยกตัวเองจากสังคมแวดล้อม หากปรับตัวไม่ได้สภาพร่างกายจะทรุดหนักลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากกายและจิตเป็นสิ่งสัมพันธ์กัน เมื่อกายป่วย จิตก็ป่วย เมื่อจิตป่วย กายก็ทรุด ดังนั้นจึงต้องหาวิธีช่วยให้ผู้ป่วยกลับฟื้นขึ้นมา โดยเฉพาะในเรื่องของการกระตุ้นจิต ให้ยอมรับกับโรคและสู้กับอาการเจ็บปวด การบริหารกายและบริหารจิต จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ป่วยลุกขึ้นมา ปรับพฤติกรรมตนเองเพื่ออยู่กับมะเร็งได้อย่างมีความสุข ในที่นี้จึงขอเสนอการช่วยดูแลและกระตุ้นผู้ป่วยด้วย กาย จิต สมาธิบำบัด ตามแนวคิด ผ่อนกาย คลายจิต กายฟิต พิชิตโรค ซึ่งผู้เรียบเรียงได้ ประมวลจากเอกสารและประสบการณ์การฝึก โยคะพื้นฐาน ฤษีดัดตน การนวดตนเอง body scan และดนตรีบำบัด จากลมหายใจ ดนตรี ชีวิต ของ อาจารย์ ดุฎษี พนมยงค์ นำสิ่งเหล่านี้มาประมวล เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งและใช้ในผู้สูงอายุหรือผู้สนใจ ดังนี้

1. ผ่อนกาย
เป็นการผ่อนคลายร่างกายอย่างมีสติ โดยใช้เทคนิค Body scan exercise ซึ่งจะช่วยเพิ่มการทำงานของสมอง ทำให้ระบบประสาททำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความดันโลหิต การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ลดอาการอ่อนเพลีย และรักษาความสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย

วิธีฝึก ผ่อนกาย ( Body Scan exercise )
1. นอนในท่าที่สบาย ขาเหยียดตรง ปล่อยสบาย แขนเหยียดตรง ข้างลำตัว ปล่อยสบาย ไม่เกร็ง
2. หลับตา ผ่อนคลาย หรืออาจลืมตาก็ได้
3. กำหนดการหายใจ เข้า ออก แบบโยคะ คือหายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องยุบ เมื่อหายใจเข้า ลมผ่านจมูก ช่องอก ยกกระบังลม ทรวงอกขยาย หยุดหายใจเพื่อกำหนดลมหายใจ ค่อยๆผ่อนลมหายใจออก ทรวงอกลดลง ท้องแบนราบ ยุบลง หยุดหายใจ ค่อยๆหายใจเข้าท้องป่อง ตามวิธีดังกล่าวไปเรื่อยๆ
4. ค่อยๆทำความรู้สึกไปที่ปลายเท้าทั้ง2 ข้าง ยังคงหายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องยุบ กระดิกปลายเท้าเบาๆ ทำความรู้สึกไปที่อุ้งเท้า เกร็งแล้วคลายออก ยังคงหายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องยุบ
5. ทำความรู้สึกไปที่น่อง รู้สึกตึงแล้วผ่อนคลาย ยังคงหายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องยุบ
6. ทำเช่นเดียวกันนี้กับเข่า หน้าขา สะโพก หลัง ท้อง อก ไหล่ คอ หน้า โดยที่ยังคงหายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องยุบ
7. ทำความรู้ศึกที่ศีรษะและผม รู้สึกเหมือนมีลมพัดอยู่รอบศีรษะ เย็นสบาย ความตึง เครียด ปลิวหลุดไปจากเส้นผม
8. ยังคงหายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องยุบ รู้สึกเหมือนเท้าติดอยู่กับดิน เย็นสบาย

2. คลายจิต
เป็นการทำต่อเนื่องจาก ผ่อนกาย โดยยังคงอยู่ในสมาธิ การหายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องยุบ เพิ่มจังหวะการหายใจ ควบคู่ไปกับเสียงดนตรีที่ฟังแล้วสงบ เป็นสุข จังหวัดช้า จะทำให้เกิดอาการผ่อนคลาย โดยเฉพาะระบบประสาทและกล้ามเนื้อ และเร็วปานกลาง เทียบเท่าการเต้นของหัวใจประมาณ 70-80 ครั้งต่อนาที จะทำให้เกิดอารมณ์สบายและลดความตึงเครียดลง
การหายใจแบบโยคะ จะช่วยให้การทำงานของปอดมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มความจุปอด และการขยายของถุงลม รับออกซิเจนเข้าไปเลี่ยงร่างกายได้มากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพระบบไหลเวียนโลหิต ส่งผลการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานส่วนต่างๆของร่างกาย

วิธีการฝึก คลายจิต ( Musical and Breathing exercise)
1. ทำต่อเนื่องจาก ผ่อนกาย หายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องยุบ
2. วางมือ หรือหนังสือ บนแนวท้องกับบั้นเอว เพื่อรับรู้การเคลื่อนไหวของท้องและทรวงอก
3. หายใจเข้านับ 1 2 3 4 5 หยุดหายใจ นับ 1 2 3 4 5 ค่อยๆหายใจออก นับ 1 2 3 4 5 6 7 8 หยุดหายใจ นับ 1 2 3 4 5 หายใจเข้า นับ 1 2 3 4 5 โดยที่การหายใจเข้า เมื่อนับ 1 กล้ามเนื้อท้อง เริ่มยกขึ้น นับ 2 กระบังลมยกขึ้น นับ 3 4 ทรวงอกขยายยกขึ้น นับ 5 ไหล่ผายออก หยุดหายใจในลักษณะนี้ นับ 1 2 3 4 5 แล้วจึงค่อยๆผ่อนลมหายใจออก นับ 1 2 ทรวงอกลดลง นับ 3 4 กล้ามเนื้อท้องยุบลง นับ 5 6 สะดือยุบลง นับ 7 8 หน้าท้อง ยุบลง หยุดหายใจในลักษณะนี้ นับ 1 2 3 4 5 แล้วเริ่มหายใจเข้าใหม่
4. ขณะทำเปิดเพลงบรรเลง ที่มีระดับเสียงไม่เกิน 80 เดซิเบล ความเร็วช้า ถึงปานกลางเทียบเท่าการเต้นของหัวใจ 70-80 ครั้งต่อนาที ใช้เวลา 10 นาที เพลงที่ใช้เป็นเพลงบรรเลงเสียงธรรมชาติ เสียงสวดเบาๆ เสียงเพลงจะช่วยปรับสภาพอารมณ์และจิตใจ มีความสงบ ผ่อนคลาย มีชีวิตชีวา หรือมีพลังได้ ลดความวิตกกังวล และความเจ็บปวด
5. ยังคงควบคุมการหายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องยุบ ยกแขนทั้ง2ข้างขึ้นระดับอก ค่อยๆยกตัวขึ้นทำมือเหมือนกำลังสาวเชือกดึงตัวเองขึ้นลุกนั่ง นั่งในท่าสมาธิ
6. นำดอกไม้กลิ่นหอม ถือไว้ในระดับอก สูดดมกลิ่นหอมในระหว่างการหายใจเข้า แล้วค่อยๆถอยห่างจากตำแหน่งเดิมประมาณ 1 คืบ ในขณะหายใจออก หายใจเข้าสูดดมกลิ่นหอมของดอกไม้
7. เปลี่ยนจากดอกไม้เป็นเทียนไขที่จุดไฟแล้ว ให้เปลวเทียนอยู่ในระดับที่ลมหายใจพัดได้ หายใจเข้า สังเกตเห็นเปลวเทียนตามลมหายใจเข้ามา หายใจออกขยับเทียนออกไป 1 คืบ สังเกตเห็นเปลวเทียนพัดออกไปตามการหายใจออก
การทำในข้อ 6 และ 7 แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการหายใจที่ถูกต้อง จิตสงบ มีสติ เมื่อผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวด ใช้การคลายจิตนี้แล้วผ่อนกาย(Body scan) ไปตำแหน่งที่เจ็บปวด ผู้ป่วยจะรู้สึกคลายความเจ็บปวด และมีสติอยู่กับลมหายใจเข้าออก

3. กายฟิต พิชิตโรค
เป็นการทำต่อเนื่องจาก คลายจิต โดยใช้ท่าโยคะและฤษีดัดตนที่ไม่มีการดัด หรือยืด หรือใช้ท่าทางที่ต้องใช้แรงมาก เนื่องจากผู้ป่วยมะเร็งมีสภาพร่างกายที่อ่อนเพลียอยู่แล้ว ต่อจากนั้นเป็นการฝึกการนำวิธีการหายใจแบบโยคะมาใช้ร่วมกับการร้องเพลง ซึ่งแสดงให้เห็นประสิทธิภาพของการฝึก จะส่งผลให้สามารถควบคุมการหายใจ เข้า ออกในระหว่างการร้องเพลงได้อย่างถูกต้องส่งผลให้เพิ่มพลังของปอดและเสียงในการขับร้อง

วิธีการฝึก กายฟิต ( Physical exercise)
1. ทำต่อเนื่องจากคลายจิต โดย ทำโยคะ ในท่านั่งที่ช่วยยืด เอ็น ข้อต่อ กล้ามเนื้อยืดหยุ่น ได้แก่ท่าดอกบัว (ปัทมะ) ท่าชานุ(ศีรษะอาสานะ) ยังคงควบคุมการหายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องยุบ

2. ทำฤษีดัดตนพื้นฐาน 15 ท่าบางท่า ควบคู่ไปกับการนวดตนเองเพื่อแก้อาการปวดศีรษะ คอ ไหล่ แขน ขา เข่า และหลัง เพื่อผ่อนคลายและบรรเทาอาการเจ็บปวดในส่วนต่างๆของร่างกาย ยังคงควบคุมการหายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องยุบ
3. ทำโยคะท่าไว้พระอาทิตย์( สุริยะนมัสการ) เพื่อเมประสิทธิภาพการทำงานทุกส่วนของร่างกายยังคงควบคุมการหายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องยุบ
4. ร้องเพลงที่มีจังหวะเร็วปานกลาง ในการฝึกนี้ เลือกเพลง ดอกไม้ให้คุณ เนื่องจากเนื้อร้อง ทำนอง และจังหวะสามารถใช้ฝึกควบคุมการหายใจได้อย่างสม่ำเสมอสำหรับผู้เริ่มต้น ผู้ฝึกจะสังเกตได้ด้วยตนเองว่าเมื่อไรจะหายใจเข้าเต็มที่ แล้วค่อยผ่อนลมหายใจกับเนื้อร้องท่อนต่อไป เมื่อให้จะหายใจเข้าเล็กน้อย แล้วผ่อนลมหายใจออก

หมายเหตุ ในการฝึกกายฟิต พิชิตโรคนี้คือ การฝึกตามระดับความสามารถของผู้ฝึก โดยเฉพาะในผู้ป่วยและผู้สูงอายุ ไม่จำเป็นต้องตัวอ่อนเหมือนวิทยากร หรือรูปภาพที่เห็น ตัวแข็งแต่หายใจถูกต้องใช้ท่าได้อย่างถูกต้องทำให้การบริหารนั้นมีประสิทธิภาพต่อร่างกายเป็นสิ่งสำคัญกว่า
จะเห็นว่าการฝึก กาย จิต สมาธิบำบัด ด้วยแนวคิด ผ่อนกาย คลายจิต กายฟิต พิชิตโรค นี้ เป็นวิธีการผสมผสานการบริหารกาย และบริหารจิต ไปพร้อมกัน เป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งให้อยู่กับอาการเจ็บป่วยได้อย่างมีความสุข มีสติรับรู้และจัดการกับความเจ็บปวดของตนเองได้


ที่มา www.mfu.ac.th/school/health_sci/cirrent_topic02.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น