วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2553

อาหารมังสวิรัติ

อาหารมังสวิรัติ

คนทั่วไปมักเข้าใจว่า ถ้าไม่กินเนื้อสัตว์จะไม่แข็งแรง และเป็นโรคขาดอาหาร แต่ความเป็นจริงปรากฏว่า คนที่กินอาหารมังสวิรัติ มีสุขภาพสมบูรณ์กว่า และไม่เป็นโรคขาดอาหาร กลับจะเป็นโรคน้อยกว่าด้วย เช่น โรคหัวใจวาย โรคมะเร็ง โรคพยาธิ และติดเชื้อจากสัตว์

อาหารมังสวิรัติไม่แตกต่างจากอาหารที่คนเรากินทั่วๆไปมากนัก เพียงแต่นักมังสวิรัติไม่กินเนื้อสัตว์ เขากินถั่วต่างๆ แทน เช่น ถั่วลิสง และ ถั่วเหลืองหรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เต้าหู้ และนมถั่วเหลือง เป็นต้น
อาหารมังสวิรัติไม่ใช่มีไว้เฉพาะสำหรับกลุ่มคนที่ถือศีล หรือเคร่งครัดในเรื่องศาสนาเท่านั้น แต่ปัจจุบันคนทั่วโลกหลายล้านคนหันมากินอาหารมังสวิรัติ เพื่อสุขภาพเป็นหลักใหญ่

ประวัติของมังสวิรัติ
ประวัติการบริโภคอาหารมังสวิรัติที่มีการบันทึกไว้ โดยเป็นการปฏิบัติและเป็นแนวความคิดความเชื่อเริ่มมีมาตั้งแต่สมัยอินเดียโบราณ และสมัยอารยธรรมกรีกโบราณทางตอนใต้ของอิตาลี และที่กรีซเมื่อศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตศักราช การบริโภคทั้งสองแบบมีความเกี่ยวข้องกับแนวความคิดในการไม่ใช้ความรุนแรงต่อสัตว์ (อหิงสา) และได้รับการสนับสนุนจากทางศาสนาและกลุ่มนักปรัชญาหรือนักปราชญ์

ความหมายของมังสวิรัติ
อาหารมังสวิรัติ หมายถึง อาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ทุกประเภท แต่ยังคงใช้ผักทุกประเภทมาปรุงอาหารรับประทาน ในส่วนของ "อาหารเจ" เป็นอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ทุกประเภทเช่นกัน แต่อาหารเจจะไม่ใช้ผักฉุนทั้ง 5 ประเภท มาปรุงลงในอาหารโดยเด็ดขาด เพราะฉะนั้นผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติอยู่แล้ว หากจะทดลองปรุงและรับประทานอาหารเจดูบ้าง ก็เพียงแต่ไม่บริโภคผักฉุนทั้ง 5 ประเภทก็เรียกว่าเป็น "อาหารเจ" และ "กินเจ" ได้แล้วนั่นเอง

คำว่า "มังสวิรัติ" นี้มาจาก คำว่า "มังสะ" แปลว่า เนื้อสัตว์ "วิรัติ" แปลว่า การยกเว้นอาหารมังสวิรัติเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีผักและผลไม้ซึ่งทำให้ได้รับกากใยอาหารจากผัก และผลไม้มากพอ ซึ่งกากใยอาหารจะช่วยในการขับถ่ายกากอาหารออกจากร่างกายเร็ว โดยเฉพาะในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ซึ่งมักจะมีปัญหาเรื่องท้องผูกและมีปัญหาเรื่องไขมันในเส้นเลือดสูงกว่าเกณฑ์ปกติอยู่แล้ว อาหารที่มาจากเนื้อสัตว์มักจะมีไขมันและน้ำมันจากสัตว์ปนอยู่ด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้โคเลสเตอรอลเพิ่มขึ้น และอาจเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ โรคเบาหวานและอื่นๆ

โดยทั่วไปแล้วการกินอาหารมังสวิรัติแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

1. มังสวิรัติชนิดเคร่งครัด เป็นมังสวิรัติที่กินอาหารจากพืชเพียงอย่างเดียว ไม่มีอาหารพวกเนื้อสัตว์ ไข่ นม หรือ ผลิตภัณฑ์ของไข่และนมเป็นส่วนประกอบของอาหารเลย

2. มังสวิรัติชนิดที่ดื่มนม อาหารมังสวิรัติประเภทนี้มีนมและผลิตภัณฑ์ของนมนอกเหนือจากพืช แต่ไม่มีเนื้อสัตว์และไข่เป็นส่วนประกอบของอาหารเลย

3. มังสวิรัติชนิดที่ดื่มและกินไข่ อาหารมังสวิรัติประเภทนี้มีไข่ นม และผลิตภัณฑ์ของนมนอกเหนือจากอาหารจากพืช แต่ไม่มีเนื้อสัตว์เลย

นักมังสวิรัติ จำแนกได้ 4 ประเภท
1. กินธัญพืช ( ข้าวหรือข้าวกล้อง) ถั่ว พืชผักและผลไม้ ( Vegan)
2. กินเหมือนข้อ 1 แต่ดื่มนมด้วย ( Lacto-vegetarian)
3. กินเหมือนข้อ 1 แต่ดื่มนมและกินไข่ด้วย ( Lacto-ovo-vegetarian)
4.กินเจ กินเหมือนข้อ 1 แต่ งด กุยช่าย ต้นหอม และกระเทียม (Chinese vegetarian

บางท่านเกรงว่า การรับประทานอาหารมังสะวิรัติอย่างเดียวจะทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร โดยเฉพาะโปรตีน ซึ่งคนทั่วไปเข้าใจกันว่าโปรตีนมาจากเนื้อสัตว์เท่านั้น แต่ความจริงคนที่รับประทานอาหารมังสะวิรัติสามารถได้รับสารอาหารครบหมู่เช่นเดียวกัน โดยโปรตีนจะได้มาจากพืช พวกถั่วเมล็ดแห้ง เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วดำ และถั่วลิสง เป็นต้น

เอกสารอ้างอิง
๑. http://www.thaigreenagro.com/aticle.aspx?id=2010
๒. http://www.saranair.com/article.php?sid=13252
๓. http://th.wikipedia.org/wiki
๔ www.wedding.co.th/wartc_health0024.html
๕. women.impaqmsn.com/articles/647/47001124_2.aspx

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น