วันอังคารที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2553

สัญญาณอันตราย 7 ประการของมะเร็ง

สัญญาณอันตราย 7 ประการของมะเร็ง

อาการผิดปกติต่างๆที่อาจเป็นอาการของโรคมะเร็งในระยะที่เพิ่งเริ่มเป็น หรืออาจจะเรียกรวมๆว่า “สัญญาณอันตราย 7 ประการ” ถ้าหากเราให้ความสังเกตเอาใจใส่ ก็จะเป็นทางหนึ่งที่ทำให้ลดอัตราเสี่ยงจากการเป็นโรคนี้

1. การเป็นแผลเรื้อรังที่ไม่รู้จักหาย หรือหายช้า
โดยปกติแล้วแผลธรรมดาไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็ตาม เมื่อได้รับการรักษา (หรือแม้ว่าจะไม่ได้รับการรักษาก็ตาม) มักจะหายไปได้ภายในเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ ถ้าหากเกิน 2 สัปดาห์ไปแล้วแผลยังไม่หายหรือกลายเป็นแผลเรื้อรังเกินเดือนที่ชาวบ้านเรียกว่า “แผลกลาย” ในกรณีเช่นนี้ควรไปพบแพทย์ เพราะอาจจะเป็นแผลมะเร็งได้ แต่ก็มีแผลจากโรคอื่นที่อาจใช้เวลาเกิน 2 สัปดาห์ เช่น แผลจากโรคเบาหวาน แผลจากเส้นเลือดตีบตัน หรือแผลโรคเรื้อน ฯลฯ

2. การมีตุ่ม ไต ก้อนแข็งใต้ผิวหนังที่ผิดปกติ
ความจริงนั้น ตุ่ม ไต หรือก้อนนี้จะเกิดในส่วนใดของร่างกายก็ได้ ซึ่งโดยปกติแล้วเป็นตำแหน่งที่ไม่ควรจะมีก้อน ตุ่ม ไตขึ้นมา ควรจะสงสัยว่าอาจจะเป็นก้อนมะเร็งได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งที่ควรจะมีการตรวจตรา สังเกตอยู่เสมอๆ เช่น บริเวณเต้านม ช่องท้อง หรือบริเวณที่มักจะมีการโตของต่อมน้ำเหลือง เช่น บริเวณคอ ขาหนีบ รักแร้

3. มีอาการไอเรื้อรัง เจ็บคอ หรือมีเสียงแหบแห้งอยู่นาน
อาการไอเรื้อรังที่เกิดขึ้นโดยหาสาเหตุไม่ได้ เช่น ไม่ได้เป็นหวัดมาก่อน อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะถ้าหากว่าเป็นการไอที่มีสาเหตุจากมะเร็งปอด จะมีความหมายต่อชีวิตมาก เพราะระยะเวลาเพียง 1 เดือนมะเร็งปอดสามารถลุกลามไปได้มาก

4. กลืนอาหารลำบาก ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือท้องผูกสลับกับท้องเดิน
การผิดปกติในระบบทางเดินอาหารนี้สังเกตได้ยาก เพราะในคนปกติก็จะมีอาการเหล่านี้ได้ การกลืนอาหารลำบาก บางครั้งจะรู้สึกกลืนแล้วแน่น ติด จุกบริเวณลำคอหรือหน้าอกขณะที่กลืนอาหาร โดยเฉพาะอาหารแข็งๆ อาจจะเป็นอาการเริ่มแรกของมะเร็งหลอดอาหาร หรือถ้าหากกินอาหารเพียงเล็กน้อยแล้วรู้สึกแน่นท้อง จุกท้อง อาจจะเป็นอาการของมะเร็งกระเพาะอาหาร ลำไส้ หรือมะเร็งตับก็ได้

5. มีการเปลี่ยนแปลงของหูด ไฝ ปานที่มีมาก่อนแล้ว
ในกรณีที่อยู่ดีๆหูด ไฝ หรือปาน อยู่ดีๆก็มีการเปลี่ยนแปลง เช่น โตเร็ว เจ็บ แตกเป็นแผล หรือมีเลือดออก แสดงว่ามีอาการอักเสบ หรืออาจจะเริ่มกลายเป็นมะเร็งผิวหนังก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หูด ไฝ ปาน หรือการตกกระในคนแก่ที่อยู่ในตำแหน่งที่อยู่ในตำแหน่งที่จะต้องได้รับการระคาย กระทบกระแทกให้ชอกช้ำอยู่เสมอๆ เช่น เป็นไฝ ปาน บริเวณหนังศีรษะเวลาหวีผมจะถูกปลายหวีครูดบ่อยๆ บริเวณเหล่านี้จะกลายเป็นมะเร็งได้ง่าย

6. การมีน้ำเหลือง หนอง หรือเลือดที่ผิดปกติออกจากทวารต่างๆของร่างกาย
ตามปกติแล้วทวารต่างๆของร่างกาย เช่น ตา หู จมูก ปาก อาจจะมีน้ำหรือของเหลวที่เป็นปกติออกมาได้ แต่บางทวารก็ไม่ควรมีอะไรออกมาเลย เช่น
- ตา อาจจะมีน้ำตา หรือขี้ตาเล็กน้อย สิ่งเหล่านี้ถือเป็นปกติ แต่ถ้ามีน้ำเหลือง เลือดออกมาจากตาก็ถือว่าเป็นสิ่งผิดปกติ
- ปาก น้ำลาย เสลด ถือว่าเป็นสิ่งผิดปกติ แต่ถ้าหากมีน้ำเหลือง เลือด หนอง ออกจากปากหรือคอ ถือว่าเป็นสิ่งผิดปกติ ฯลฯ
ถ้ามีสิ่งผิดปกติเหล่านี้เกิดขึ้น อาจจะเป็นสัญญาณของมะเร็งก็ได้ ควรจะปรึกษาแพทย์ อย่าปล่อยทิ้งไว้นานๆ

7. มีการผิดปกติของประจำเดือนในสตรี
ปกติสตรีจะมีประจำเดือนประมาณครั้งละ 3-5 วัน หรืออาจจะนานถึง 7-8 วันก็ได้ และควรมีประจำเดือนทุกๆ 4-5 สัปดาห์ สีและกลิ่นปกติ ไม่ควรมีสิ่งอื่นปะปนมากับเลือดประจำเดือนด้วย เพราะฉะนั้นถ้ามีการผิดปกติไปจากนี้ เช่น ประจำเดือนกระปริดกระปรอยเกิน 7-8 วัน หรืออาจจะตลอดเดือน หรือมี 2-3 วันแล้วหยุดไป 3-4 วันก็มีมาอีก หรือประจำเดือนมีสีและกลิ่นผิดไปจากที่เคย เช่น สีดำคล้ำหรือมีกลิ่นเหม็นเน่า หรือมีลักษณะคล้ายชิ้นเนื้อหรือเม็ดสาคูออกมาปนกับเลือดประจำเดือน สิ่งเหล่านี้ถือเป็นความผิดปกติทั้งสิ้น จึงควรรีบปรึกษาแพทย์

สัญญาณอันตรายทั้ง 7 ประการนี้ เป็นเพียงข้อเตือนใจให้รู้ว่า อาจจะเป็นอาการของโรคมะเร็งในระยะแรกก็ได้ แต่ผู้จะบอกได้แน่นอนว่าเป็นมะเร็งหรือไม่นั้น ได้แก่แพทย์ ถ้ามีอาการผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่งข้างต้น จึงควรไปปรึกษาแพทย์ ถ้าหากเป็นมะเร็งจริงก็อาจจะยังอยู่ในระยะที่เพิ่งจะเป็น และมีโอกาสรักษาให้หายขาดได้

ข้อควรปฏิบัติ 10 ประการเพื่อป้องกันโรคมะเร็ง
1. กินอาหารให้ครบถ้วน และควรเลือกอาหารที่มีวิตามินเอ ซี และวิตามินอีสูง และเลือกอาหารที่มีกากมาก ได้แก่ ผัก ผลไม้ เมล็ดธัญพืช
2. อย่ากินอาหารในปริมาณที่มากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารประเภทไขมัน
3. ไม่ควรกินอาหารรสเค็มจัด อาหารที่มีราขึ้น
4. หลีกเลี่ยงการกินส่วนที่ไหม้เกรียมของอาหารประเภทปิ้ง ย่าง รมควัน เช่น ปลาย่าง เนื้อย่าง ไก่ย่าง ลูกชิ้นปิ้ง ฯลฯ
5. ไม่ควรกินอาหารหรือยาชนิดเดียวกันซ้ำๆซากๆ
6. อย่าสูบบุหรี่ และไม่ควรดื่มสุรามากเกินไป
7. ไม่ควรดื่มน้ำชา กาแฟมากเกินไป และควรหลีกเลี่ยงการดื่มของร้อนจัดๆ
8. อย่าตากแดดจัดมากเกินไป
9. อย่าหักโหมทำงานมากเกินไป เพราะจะทำให้ไม่สบายและภูมิต้านทานโรคก็จะลดลง
10. อาบน้ำอย่างสม่ำเสมอ จะได้ชำระล้างสิ่งผิดปกติออกจากร่างกาย
เมื่อได้ทราบสาเหตุและสารที่ก่อมะเร็งแล้ว จึงควรพยายามหลีกเลี่ยงให้ห่างจากสารก่อมะเร็งเหล่านี้นอกเหนือไปจากข้อแนะนำ 10 ประการที่กล่าวไปแล้ว

ที่มา
http://www.doctor.or.th/node/3847

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น