วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2553

พลังกายทิพย์...พลังพิชิตโรค

พลังกายทิพย์...พลังพิชิตโรค


ต้นกำเนิดพลังกายทิพย์
Cosmos คือ จักรวาล Cosmology คือ จักรวาลวิทยา วิชาที่กล่าวถึงพลังในจักรวาล (Cosmic energy) เชื่อว่า เป็นพลังที่ปรากฎในโลกมนุษย์ ได้จากดวงอาทิตย์แผ่รังสีไปกระทบดวงดาวต่างๆ ดวงดาวเหล่านี้มีแร่ธาตุที่แตกต่างกันจึงดูดซับและสะท้อนรังสีออกมามีสีแตกต่างกัน และ เป็นรังสีที่แผ่มากระทบมนุษย์บนโลก มนุษย์มีพลังจิตที่มีความสามารถในการดูดซับรังสีเหล่านี้มาสะสมไว้ใน “กายทิพย์ (Etheric body)” จึงเรียกว่า พลังกายทิพย์ และ มนุษย์สามารถถ่ายเทเผื่อแผ่พลังเหล่านี้ไปสู่ผู้อื่นได้

กายของมนุษย์ที่มองเห็นด้วยตาเนื้อ เรียกว่า กายเนื้อ สำหรับ กายทิพย์ คือ ส่วนที่มองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ แต่สามารถมองเห็นด้วยตาใน หรือ ตาที่สาม คือ การฝึกสมาธิ ในกายทิพย์ เชื่อว่า มีจักระ 7 แห่ง ซึ่งเป็นที่ดูดซับพลังและส่งพลังไปยังกายเนื้อให้ทำงานตามหน้าที่ กายทิพย์เป็นของ เทวดา มนุษย์ และ สัตว์เดรัจฉาน มีจักระเปิดทำงานตลอดเวลา กายเนื้อของมนุษย์ตายไปเหลือกายทิพย์เป็น เทวดา หรือ สัตว์เดรัจฉาน ขึ้นอยู่กับกรรมของแต่ละคน สำหรับพระอรหันต์ปิดจักระหมดแล้วจึงไม่เกิดอีกต่อไป
Dr. Alex Gray เป็นจิตรกรผู้ที่ฝึกพลังกายทิพย์ มีหูทิพย์ตาทิพย์ ได้เขียนภาพ กายเนื้อ และ กายทิพย์ ของมนุษย์ไว้ กายเนื้อ เหมือนภาพกายวิภาคศาสตร์ กายทิพย์ลักษณะมีเส้นแสงเป็นสนามแม่เหล็ก มีจักระ 7 แห่ง จักระที่ 1 คล้ายดอกบัวบาน จักระที่ 1-6 โตไม่เกิน 3 นิ้ว แต่จักระที่ 7 โตเต็มศีรษะ ทุกจักระหมุนตามเข็มนาฬิกา ถ้าอารมณ์มีกิเลสตัณหา ทำให้จักระไม่สมดุล จักระเรียงอยู่ตามแนวกระดูกสันหลัง ในแนวเดียวกัน มีบางคนเชื่อว่าไม่ได้เรียงเป็นแนวเดียวกัน มีการเหลื่อมเยื้องกันบ้าง

จักระในร่างกายมนุษย์
จักระที่ 1 สีแดง 4 เส้นแสง เป็นขั้วลบ (-) ชื่อ มูลลัดดา หรือ Kundalini หรือ Serpentine ตำแหน่ง อยู่ที่ฝีเย็บระหว่างอวัยวะสืบพันธุ์และทวารหนัก เป็นพื้นฐานของพลังชีวิตและเป็นกลไกที่ทำให้ชีวิตอยู่ได้ ดูดซับพลังจากใจกลางโลกที่พุ่งขึ้นมา ได้แก่ น้ำพุร้อน ภูเขาไฟระเบิด ต้นไม้ที่เจริญเติบโตจากดินพุ่งขึ้นสู่อากาศ

จักระที่ 2 สีส้ม 6 เส้นแสง ชื่อ สวัสดิ์ธนา ตำแหน่ง อยู่ที่ ก้นกบปลายสุด ตรงกับ Gonads (ต่อมเพศ) ซึ่งสร้าง sex hormones อวัยวะที่เกี่ยวข้อง คือ ระบบสืบพันธ์ และ ระบบขับถ่าย (ไต?) เป็นจุดศูนย์กลางเกี่ยวกับพลังงานทางเพศ (ทั้งผู้ให้และผู้รับ) เกี่ยวกับความเชื่อมั่นในตนเอง ดูดซับพลังจากพระอาทิตย์ เมื่อพระอาทิตย์ตกดินจะกระจายพลังจากจุดนี้ออกไป นอนแต่หัวค่ำ ก่อน 21 น. ตื่นตี 5 ทำให้ melatonin หลั่ง ร่างกายจะกำจัดสิ่งแปลกปลอม เชื้อโรค ทำให้ไม่เป็นโรคติดเชื้อ ถ้ากระตุ้นขึ้นบนไปจักระ 7 จะรุนแรงในทางสร้างสรรค์ มีความหวานหอม แต่ถ้ากระตุ้นลงล่างจะกระตุ้น sex ใจเร็วด่วนได้

จักระที่ 3 สีเหลือง10 เส้นแสง ชื่อ มณีปุระ ตำแหน่ง อยู่ที่ บั้นเอว ตรงกับ สะดือ ตรงกับ Adrenal gland (ต่อมหมวกไต) เป็นศูนย์กลางของอารมณ์ดิบ ที่ไม่ได้ผ่านการซักฟอก ในขณะที่เราตกใจกลัว กล้ามเนื้อบริเวณสะดือ จะหดตัวลง จักระ 3 มีหน้าที่ผลิตเนื้อเยื่อกระดูกหนาขึ้น ผลิตเม็ดเลือดแดง ระบบการย่อยอาหาร (กลิ่น รส กระเพาะอาหาร ตับ) ระบบขับถ่าย (ไต) อวัยวะที่เกี่ยวข้อง คือ ท้อง ตับ กระเพาะอาหาร และ ลำไส้ ถ้าขาดพลังจักระ 3 ไม่มีแรง ถ้ากระตุ้นจักระ 3 จะรู้สึกหิว

จักระที่ 4 สีเขียว 12 เส้นแสง ชื่อ อนัตตา ตำแหน่ง อยู่ที่ ตรงกลางกระดูกสันหลังระดับที่ตรงกับหัวใจ ตรงกับ Thymus gland อวัยวะที่เกี่ยวข้อง คือ หัวใจ และ ระบบหมุนเวียนโลหิต เป็นศูนย์รวมของความรักที่แท้จริงอย่างไม่มีเงื่อนไข รวมทั้งการพัฒนาจิตใจ ความเมตตากรุณา และ ความเสียสละ หลายต่อหลายวิธีของการปฏิบัติสมาธิของชาวตะวันออก เพื่อกระตุ้นจักระนี้ มีสีดอกไม้ใบหญ้า ถ้าขาดพลังจักระ 4 ทำให้ไขมันสูง Triglyceride สูง ก่อกรรม Rx. เมตตากรุณา ไม่หวังผลตอบแทน ลดความโลภ โกรธ หลง

จักระที่ 5 สีฟ้า 16 เส้นแสง ชื่อ วิสุทธิ์ ตำแหน่ง อยู่ที่ กระดูกต้นคอ ตรงกับ Thyroid gland อวัยวะที่เกี่ยวข้องคือ ปอด Rx. โรคระบบหายใจ ผิวหนัง หอบหืด เคราะห์กรรม ถูกกระทำย่ำยี สัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ พูดเพราะ หูทิพย์ ฟังเทวดาได้ พิธีกรรม สวดมนต์ ดนตรีไทย (ฉิ่งฉาบกลอง มี alpha wave)

จักระที่ 6 สีไพลิน (สีน้ำเงิน) และ กุหลาบทอง 96 เส้นแสง ชื่อ อัจนา หรือ อัจฉริยะ ตำแหน่ง ตั้งอยู่ที่กึ่งกลางหน้าผาก ตรงกับ Pituitary gland (ต่อมใต้สมอง) อวัยวะที่เกี่ยวข้อง คือ สมองส่วนล่าง และ ระบบประสาท เป็นที่รวมของปัญญา เป็นดวงตาที่สาม และ พาหนะแห่งญาณวิเศษ ติดต่อกับเทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน Rx. ทำลายสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง, Parkinson, Alziemer syndrome คุณย่ามีภาพเด็กชาวรัสเซียมีตาที่สาม คือ พระอิศวร เด็กคนนี้สามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้

จักระที่ 7 สีม่วง 972 เส้นแสง เป็นขั้วบวก (+) มีเส้นแสงสีทอง 12 เส้นตรงกลาง และ สีม่วง 960 เส้น โดยรอบ รวมเป็น 972 เส้น เป็นศูนย์ควบคุมทุกจักระในกายทิพย์ เป็นสถานที่รับพลังคอสมิกและกระจายไปทั่วร่างกาย ตำราอินเดียเรียกชื่อว่า สหัชชะ หรือ สหัสรา แปลว่า หนึ่งพัน หรือ 1,000 เส้นแสง ตำแหน่ง อยู่ที่ กลางศีรษะด้านบน เปรียบเสมือนมงกุฎดอกบัว ตรงกับ Pineal gland อวัยวะที่เกี่ยวข้อง คือ สมองส่วนบน ระบบประสาท ระบบโครงสร้าง และ ระบบหมุนเวียน โดยทั่วไปของร่างกาย Rx. ระบบโครงสร้างและข้อต่อ เป็นจุดที่สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยที่จักระอื่นๆ ไม่สามารถจะรักษาได้โดยตรง

คุณสมบัติของพลังกายทิพย์
1. เป็น alpha wave มีความหนาแน่นมาก เป็นพลังขั้วลบ ไปพบกับพลังขั้วบวกในร่างกาย
2. มีจำนวนมากในตอนกลางวัน
3. มีความถี่มากกว่าแสงอาทิตย์ 10 เท่า เดินทางเร็วกว่าแสงอาทิตย์ 10 เท่า
4. มนุษย์สามารถดูดซับพลังกายทิพย์ได้โดยกำหนดจิตที่จักระ 7 กลางกระหม่อม
5. สะท้อนที่กระจกได้ ทำให้รู้สึกอุ่นขึ้น
6. เห็นเป็น aura สะท้อนออกจาก ปลายนิ้ว กลางอุ้งมือ และ ที่ตาที่สามกลางหน้าผาก Valentino Corion และ Densa Corion ชาวรัสเซีย เป็นผู้ประดิษฐ์กล้องถ่ายภาพ aura ได้ กล้องนี้มีอยู่ที่ องค์การนาซ่า และ ประเทศรัสเซีย เท่านั้น
7. นำไปได้ด้วยสายไฟ สายโทรศัพท์
8. เก็บไว้ได้ในสิ่งไม่มีชีวิต เช่น ไม้ น้ำ ฯลฯ เช่น พลังพุทธคุณ ในน้ำมนต์วัดพระแก้ว
9. ความหนาแน่นขึ้นกับ ดินฟ้าอากาศ และ ตำแหน่ง สูงขึ้นไป 15,000 เมตร เป็นเปลือกห่อหุ้มโลก มีสีขาวเงินยวง พยับแดด เชื่อว่า เป็น ชั้นเทพเทวดา
10. ควบคุมโดยสมาธิจิต
11. ซึมซับโดยพลังจิต ให้ไป ใกล้ หรือ ไกล
12. ใช้ในทางสร้างสรรค์ หรือ ดี หรือ ชั่วร้าย สาบแช่ง ได้ rusputin ฝึกพลังกายทิพย์ ไปรักษาโอรสของพระเจ้าซาร์ ซึ่งเลือดออกมากให้หยุดได้ แต่ไปปลุก sex ทำให้พลังเคลื่อนที่ลงที่จักระ 1 ต้องรู้จักบังคับให้เคลื่อนขึ้นบนไปที่จักระ 7 จึงจะใช้เพื่อคุณประโยชน์ ในที่สุด rusputin ตายอย่างอนาถ

เส้นทางของพลังกายทิพย์
สัญลักษณ์ทางการแพทย์ คือ งู 2 ตัวพันคทา เป็นเส้นทางเดินหลักของพลัง 3 เส้น ได้แก่
1. Ida (อิดา) สีเหลืองพลังเย็น เดินจากจักระ 1 ขึ้นไปทางซ้ายวนไปสู่ pituitary gland ที่จักระ 6
2. Pingala (ปิงคลา) สีแดงพลังร้อน เดินจากจักระ 1 ขึ้นไปทางขวาวนไปสู่ pituitary gland ที่จักระ 6
3. Sushumna (สุสุมนา) แปลว่า ไม้เท้าพราหมณ์ หรือ พลังศิวะ ถ้าเปิดที่จักระ 7 เป็นเทพ ถ้าปิดเป็นนรก เดินจากจักระ 7 pineal gland ตรงลงมาข้างล่างที่ จักระ 1 กระตุ้นกิเลส พ่นพิษ กระตุ้นน้ำมันทอง (golden oil) จาก Kanda ต่อมรูปร่างคล้ายหัวหอมยับย่นที่ฝีเย็บ
เมื่อเกิดอารมณ์ งู 2 ตัว มีอาหาร คือ กิเลสตัณหา จึงเป็นที่รองรับอารมณ์จากตัวเอง ความชั่วร้ายจึงเป็นตัวทำลายน้ำมันทอง และ เผาผลาญความดีงามของตัวเอง

การรักษาโดยใช้พลังกายทิพย์
สถานที่ ควรอยู่ในที่โล่ง มีแสงแดดบ้าง ไม่เปิดไฟนีออน การเดินลมปราณก่อนใช้พลังจิต ผู้ให้พลังต้องฝึกเดินลมปราณอย่างน้อย 3 ครั้ง โดยหายใจเข้าทางจมูกช้าๆลึกๆ=หายใจออกทางปากช้าๆลึกๆ ลมปราณคือพลังที่ลึกที่สุด พลังลมปราณและพลังจิตหนาแน่นมาก

การจัดท่านั่ง ผู้ให้หันหน้าไปทางทิศเหนือ กำหนดจิตที่กระหม่อมของตัวเอง ลืมตามองผู้รับพอควร ผู้รับหันหน้าไปทางทางทิศตะวันออก นั่งสมาธิจีบนิ้วมือหลับตา และ กำหนดจิตที่กระหม่อมตัวเอง

การกระตุ้นจักระ 6-7 วางมือหนึ่งที่จักระ 6 ที่หน้าผาก และ วางอีกมือที่จักระ 7 โดยใช้นิ้วโป้งวางที่ร่องหน้าเหนือหู นิ้วที่เหลือวางบนกระหม่อมให้นิ้วกลางอยู่ที่กลางกระหม่อม ใช้เวลานาน 2 นาที

การกระตุ้นจักระ 4-5 วางมือหนึ่งที่จักระ 4 ด้านหลังตรงกับหัวใจ และ วางอีกมือที่จักระ 5 โดยใช้มือหนึ่งวางที่ลำคอด้านหลัง ใช้เวลานาน 2 นาที

การกระตุ้นจักระ 2-3 วางมือหนึ่งที่จักระ 2 โดยใช้นิ้วโป้งวางที่ก้นกบและนิ้วที่เหลือวางบนกระดูกสันหลัง และ วางอีกมือที่จักระ 3 ที่กระเบนเหน็บ ใช้เวลานาน 2 นาที

การกระตุ้นจักระ 3-4 วางมือหนึ่งที่จักระ 3 ที่กระเบนเหน็บ และ วางอีกมือที่จักระ 4 ที่ด้านหลังหัวใจ ใช้เวลานาน 2 นาที

การรักษาโรคต่างๆ ระดับปฐมจักระ โดยทั่วไปใช้จักระ 7 เป็นหลัก หรือ จักระอื่นๆ เช่น
1. ปวดหลัง Rx. จักระ 7 กับ จักระ 5 นาน 2 นาที และ จักระ 5 กับ ที่ปวดหลัง นาน 2 นาที
2. ริดสีดวงทวาร Rx. จักระ 7 กับ จักระ 3 นาน 2 นาที และ จักระ 3 กับ จักระ 2 นาน 2 นาที
3. โรคไต Rx. จักระ 7 กับ ไต ถ้ายังไม่ได้ล้างไตจะหายเร็ว แต่ ถ้าล้างไตแล้วไม่รับรองผล
4. แต่งงานกันแล้วไม่รอมชอม Rx. จักระ 1-2 กับ จักระ 7 ส่งพลังจากล่างขึ้นบน
5. เด็กเหลือขอ Rx. จักระ 7 กับ จักระ 6
6. ตับอ่อน ตับแก่ Thalassemia มดลูก ลำไส้ ต่อมลูกหมาก Rx. จักระ 2-3 นิ้วกลางที่ก้นกบ นิ้วโป้งชี้


หลักการของการฝึกพลังกายทิพย์
1. ดูดพลังทางจักระ 7 อย่าทำมากเกินไป เป็นอันตราย วันละ ไม่เกิน 20 นาที
2. เก็บพลังสะสมไว้ที่จักระ 2
3. ถ่ายพลังให้ผู้อื่นทางปลายนิ้วมือและกลางฝ่ามือ

ลองฝึกด้วยการหันฝ่ามือไปที่พระพุทธรูปพร้อมๆกัน จะรู้สึกเย็นที่กลางฝ่ามือ การดูพระที่ปลุกเสกจริงเช่นกัน ถ้ากำไว้แล้วรู้สึกเย็น จึงจะเป็นของแท้ พลังคอสมิก มีความเร็วกว่าแสงถึง 10 เท่า ดังนั้นแตะเบาๆ พลังก็ผ่านไปได้ พลังจิต วิ่งได้ไกลและเร็วกว่าพลังใดๆทั้งสิ้น เช่น เวลาผมฝันไปว่ากำลังเดินชมวิวกับภรรยา 15 นาที นั่งพัก 10 นาที และเก็บกล้วยไม้ 2-3 นาที ความจริงจิตคิดไปได้เร็วกว่านั้น อาจจะเป็นภายใน 2-3 นาทีเท่านั้น การดูดพลังจากดวงอาทิตย์และการถ่ายพลัง ต้องมี ผู้ให้ และ ผู้รับ เหมือน คลื่นวิทยุเมื่อสถานีส่งคลื่นออกไป มีแพร่กระจายอยู่ทั่วไปโดยรอบ ถ้าไม่เปิดเครื่องรับคลื่นวิทยุก็ไม่ได้ยินว่ามีเสียงอะไร ? เช่นเดียวกัน ผู้ให้ถ่ายพลังให้ผู้รับ แต่ถ้าผู้รับพลังไม่มีศรัทธาไม่เปิดเครื่องรับ ก็ไม่สามารถรับพลังที่ผู้ให้ส่งไปได้
สำหรับผู้ให้ ไม่ต้องกลัวว่าให้ไปแล้วจะหมด แต่ยิ่งให้ก็ยิ่งได้ เพราะ ผู้ให้ คือ ตัวกลาง ผู้ดูดพลังจากพระอาทิตย์ส่งต่อไปให้ผู้รับ ถ้าเรียนแล้วไม่ฝึกฝนก็จะเหมือนท่อประปาที่ทิ้งไว้นานสนิมเขรอะ

การให้เป็นการฝึกเป็นผู้ที่มีน้ำใจ มีเมตตากรุณา ต้องมีศีล 5 ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน การรักษาตัวเอง คือ
1. รักษากายเนื้อให้สมบูรณ์ ให้ชราโดยไม่เป็นภาระแก่ลูกหลาน โดย การเคลื่อนไหว ทำให้หัวใจแข็งแรง และ มีเหงื่อออก เช่น ผมว่ายน้ำท่ากบแก่ๆ วันละ 20 เที่ยว 5 วัน/สัปดาห์
2. รักษากายทิพย์ให้สมบูรณ์ ด้วยสมาธิ
3. รักษาอารมณ์ให้สมบูรณ์ ด้วยมงคล 38 ประการ อเสวนา จ พาลานัง ฯลฯ
ผู้ให้ต้องรักษาความสะอาด เช่น รักษาผู้ป่วยโรคปวดเท้า มือหนึ่งอยู่ที่จักระ 7 อีกมืออยู่ที่เท้า เมื่อจะรักษาผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ถ้าเอามือที่วางที่เท้าไปวางที่จมูก คงไม่ดีแน่ ต้องล้างมือให้สะอาดก่อน
กาย-เคลื่อนไหว แต่ จิต-สงบนิ่ง

ข้อห้ามสำหรับการรักษาโดยใช้พลังกายทิพย์
1. ห้ามรักษาเวลากลางคืน ยกเว้นคราวจำเป็น เช่น ผึ้งต่อย ใช้ สีม่วง
2. ห้ามรักษาในโรงพยาบาล เพราะเราไม่ใช่หมอที่ถูกต้องตามกฎหมาย เราเป็นมือซ้าย ไม่ใช่มือขวา ไม่ปฏิเสธการแพทย์แผนปัจจุบัน เรารักษาตามการวินิจฉัยของแพทย์แผนปัจจุบัน หรือ รักษาได้เฉพาะ พ่อ แม่ พี่ น้อง ลูก หลาน ฯลฯ
3. ห้ามรักษาใต้แสงไฟนีออน เพราะว่าต่อต้านกัน ให้ปิดแสงไฟนีออน หรือ ออกไปในที่โล่ง
4. ห้ามเรียกร้องเงินทองในการรักษา ยกเว้นเป็นอาชีพ ต้องไปทำบุญด้วย
5. ไม่โอ้อวด อิทธิฤทธิ์ เพราะเป็นวิทยาศาสตร์ และ ใช้พลังจิต ส่งความปรารถนาดี อย่างน้อยที่สุดต้องคิดว่าดีขึ้น


ที่มา :
http://www.dtam.moph.go.th/alternative/viewstory.php?id=54

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น