วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ความมืดมีประโยชน์ ช่วยต้านมะเร็ง แถมลดน้ำหนัก

ความมืดมีประโยชน์ ช่วยต้านมะเร็ง แถมลดน้ำหนัก



ชีวิตในความมืดก็มีประโยชน์ ช่วยต้านมะเร็งอีกทั้งลดน้ำหนัก (ไทยโพสต์)

นักวิชาการต่างประเทศชี้ว่า ความมืดเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับโรคมะเร็ง และช่วยลดน้ำหนักตัวได้ด้วย

โดย ดร.นีล สแตนลีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ บอกว่า "แสงสว่างจากกระแสไฟฟ้าที่เราใช้กันตามบ้านและสำนักงานเกือบตลอด 24 ชั่วโมงนั้น สามารถก่อผลลบต่อร่างกายและจิตใจได้ เราจำเป็นต้องได้รับความมืดด้วย ไม่ใช่ได้รับแต่แสงสว่างอย่างเดียว

"เราไม่ได้ให้ความเคารพแก่ความมืดเหมือนที่บรรพบุรุษของเราทำ ผลคือปัญหาสุขภาพตามมาหลายอย่าง"

นักวิทยาศาสตร์บอกว่า การได้รับแสงสว่างมากเกินไปในเวลากลางคืน มีความเชื่อมโยงกับมะเร็งเต้านม ซึ่งจากรายงานวิจัยของสถาบันมะเร็งแห่งชาติของสหรัฐระบุว่า ในขณะที่ประวัติคนในครอบครัว การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และการได้รับสารอาหารไม่พอ เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งเต้านมนั้น การได้รับแสงสว่างจากไฟฟ้ามากไปในเวลากลางคืนก็สามารถลดภูมิต้านทานของคนเราต่อโรคนี้ด้วย

แสงสว่างในตอนกลางคืนจะรบกวนการผลิต "ฮอร์โมนความมืด" นั่นคือ เมลาโทนิน ซึ่งเป็นสารตามธรรมชาติชนิดหนึ่งที่ช่วยต้านมะเร็ง ผลิตจากต่อมไพเนียล หรือต่อมใต้สมอง เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิดได้ โดยเฉพาะเมื่อทำงานร่วมกับยาต้านมะเร็งบางชนิด นอกจากนี้ เมลาโทนินยังช่วยกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง ซึ่งคอยโจมตีเนื้องอกด้วย

ความมืดไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อมะเร็งเต้านมเท่านั้น นักวิจัยของมหาวิทยาลัยไฮฟาในอิสราเอล ยังพบว่า ในประเทศที่ติดไฟส่องสว่างตามท้องถนนอย่างมากมาย จะมีคนเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากในอัตราสูง ซึ่งแสงสว่างจากไฟฟ้าไม่เพียงยับยั้งการผลิตเมลาโทนิน หากยังบั่นทอนระบบภูมิคุ้มกัน และรบกวนนาฬิกาชีวภาพในร่างกายด้วย ทั้งหมดนี้จะลดการต่อต้านมะเร็งต่อมลูกหมากตามธรรมชาติ

"นี่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องย้อนเวลากลับไปในยุคกลาง ปิดไฟให้มืดหมด" ศาสตราจารย์อับราฮัม อาอิม บอก "แต่เราต้องคำนึงถึงเรื่องนี้เมื่อกำหนดนโยบายพลังงาน"

เขาพบว่า ผู้ชายในกลุ่มประเทศที่ได้รับไฟส่องสว่างตอนกลางคืนสูงที่สุด จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 80% ต่อโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เมื่อเทียบกับผู้ชายในกลุ่มที่ได้รับแสงสว่างตอนกลางคืนน้อยที่สุด

นอกจากนั้นแล้ว ความมืดยังส่งผลดีดังนี้

ช่วยให้อารมณ์ดี

การไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในความมืดสามารถส่งผลต่ออารมณ์ของคนเราได้ นักจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยโอไฮโอพบว่า การดูทีวีจนดึกดื่นจะทำให้ซึมเศร้า อันเป็นผลจากแสงที่ปล่อยมาจากหน้าจอ ดังเช่น เมื่อหนูทดลองถูกเลี้ยงไว้ในห้องที่เปิดไฟตลอด 24 ชั่วโมง พวกมันมีอาการซึมเศร้ากว่าพวกหนูที่อยู่ในแสงสว่างสลับความมืดเป็นวงจร

ศาสตราจารย์แรนดี เนลสัน หัวหน้าทีมวิจัย บอกว่า แสงสีฟ้าจากจอโทรทัศน์ได้ยับยั้งฮอร์โมนเมลาโทนินซึ่งช่วยให้อารมณ์ดี ดังนั้นการดูทีวีจนดึกดื่นจึงทำให้อารมณ์ไม่แจ่มใส

"อัตราการเป็นโรคซึมเศร้าที่เพิ่มขึ้น มีความสัมพันธ์กับการใช้แสงสว่างเพิ่มขึ้นในเวลากลางคืนของสังคมสมัยใหม่" ศาสตราจารย์แรนดี บอก

ช่วยให้นอนหลับ

ผลวิจัยบอกว่า แสงสว่าง ทั้งแสงตามธรรมชาติและแสงจากไฟฟ้า เป็นปัจจัยที่ทำให้นอนหลับได้ไม่ดี งานของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียแสดงให้เห็นว่า คนงานระบบกะที่ได้นอนหลับในห้องที่มีการดับไฟหรือม่านบังแสง จะนอนหลับได้ดีกว่าคนที่นอนในห้องที่สว่าง

นักวิจัยบางรายพบว่า การใส่ผ้าปิดตาในตอนกลางคืนจะช่วยให้คนที่นอนไม่ค่อยหลับสามารถหลับได้ดีขึ้น ในช่วงพักผ่อนตอนกลางคืนนั้น สมองจะเปลี่ยนสิ่งที่ได้ประสบพบเห็นเป็นความทรงจำ และพัฒนาขีดความสามารถในการเรียนรู้ ขณะที่ร่างกายจะผลิตเซลล์ใหม่ขึ้นทดแทนเซลล์เก่า และเติมพลังแก่อวัยวะและกล้ามเนื้อ

ช่วยลดน้ำหนักตัว

เมื่อถึงยามกลางคืน การดับไฟอยู่ในที่มืดจะช่วยลดการกินจุบกินจิบในตอนดึก คนที่ใช้ชีวิตในแสงสว่างมาก ๆ มักไม่สามารถลดน้ำหนักตัวได้ ความมืดเป็นสิ่งส่งสัญญาณว่าเราต้องการนอนหลับ แสงสว่างเป็นสิ่งส่งสัญญาณว่าเราต้องตื่นและกิน ถ้าละเลยจังหวะตามธรรมชาติของกลางวันสลับกลางคืน เราก็จะกินมากขึ้นในเวลาที่ไม่ควรกิน

การกินในยามค่ำคืนยังรบกวนการทำงานของฮอร์โมนต่าง ๆ เช่น เลปติน, คอร์ติโซล, และอินซูลิน ที่ควบคุมความอยากอาหารและระดับน้ำตาลในเลือด ถ้าฮอร์โมนเหล่านี้ถูกรบกวนเพราะเราไม่ยอมนอนเมื่อถึงเวลากลางคืน เมื่อเวลาผ่านไปการเผาผลาญอาหารจะช้าลง ความอยากอาหารจะเพิ่มขึ้น สถิติบ่งชี้ว่า ผู้หญิงที่กินตอนกลางคืน จะกินอาหารประเภทน้ำตาลและไขมันมากกว่าผู้หญิงที่นอนหลับตามความจำเป็นถึง 33% เลยทีเดียว

ตั้งนาฬิกาชีวภาพใหม่

ความมืดเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาความเที่ยงตรงของนาฬิกาในตัวเรา แต่ขณะที่บรรพบุรุษของเราเข้านอนเมื่อมืดลง และนอนเร็วขึ้นในฤดูหนาวนั้น พวกเรากลับตื่นอยู่จนดึกดื่นค่อนคืน บางคนยังคงช็อปปิ้ง ทำงาน ใช้คอมพิวเตอร์ ดูทีวี หรือนอนหลับก็ยังเปิดไฟ การรบกวนวงจรเวลาของร่างกายเช่นนี้ ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพหลายอย่าง ตั้งแต่ความเครียด โรคหัวใจร่วมหลอดเลือด อาหารไม่ย่อย แผลเปื่อยพุพอง

ข้อแนะนำก็คือ ปิดทีวีให้เร็วขึ้น ให้เวลาตัวเองปรับตัวเข้ากับความมืด ปล่อยให้ร่างกายเปิดสวิตช์ผลิตเมลาโทนิน

ที่มา
http://health.kapook.com/view35283.html